ทำเกษตรอย่างไร…? ไม่ให้เจ้ง

ทำเกษตรอย่างไร…? ไม่ให้เจ้งทำแล้วเหลือและรวย ในรูปแบบของเกษตรเพียงพอ

 

น้ำท่วมรึเปล่า…?

คำถามต้นๆของอาจารย์อุดม เจ้าของสวนอุดมการ์เด้น ที่มักถามกับกลุ่มผู้ศึกษาดูงานที่อยากทำการเกษตร หรือเกษตรกรป้ายแดงที่หลายต่อหลายคนอยากเข้าสู่วงการการเกษตร การประกอบอาชีพใดก็แล้วแต่ผู้ที่จะประกอบอาชีพนั้นต้องศึกษาเรียนรู้อย่างถ่องแท้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้องโดยตรงก็ตามรวมถึงปัจจัยการผลิตปัจจัยการตลาดเพราะทุกอย่างผลิตแล้วต้องจำหน่ายเพื่อให้เกิดรายได้นำเงินมาหล่อเลี้ยงธุรกิจให้เดินไปได้อย่างไม่มีปัญหาและอุปสรรค์ ดังนั้นทิศทางการปฏิบัติเริ่มต้นเราควรจะกำหนดตัวผลิตภัณฑ์ที่จะผลิตก่อนโดยดูจาก สิ่งที่เราชอบหรือเพื่อนร่วมธุรกิจหรือหุ้นส่วนชีวิตเรารู้สึกไม่ขัดใจไปในทิศทางเดียวกัน ขณะเดียวกันเราควรจะต้องศึกษาตลาดความต้องการบริโภคและทิศทางความต้องการบริโภคในอนาคตถึงปัจจุบันถ้ารู้ข้อมูลย้อนไปในอดีตด้วยยิ่งดีเพราะจะทำให้เราสามารถวางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับปัจจุบันและอนาคตอย่างไม่ผิดพลาดหรือเกิดการผิดพลาดอย่างน้อยที่สุด ประเด็นต่อมาเราควรให้ความสำคัญเรื่องการขนส่งที่ไม่ยากลำบากจนเกินไปในการนำผลผลิตเข้าตลาดไม่ว่าจะเป็นตลาดในท้องถิ่นแม้กระทั่งตลาดต่างถิ่นที่เป็นตลาดกลุ่มเป้าหมายสำคัญของธุรกิจเราที่วันนี้แม้การคมนาคมจะสะดวกสะบายกว่าแต่ก่อนมากแต่อย่าลืมว่าทุกขั้นตอนมีต้นทุน ดังนั้นข้อมูลเล็กๆตรงนี้คงเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความคิดเพื่อลดขีดจำกัดให้แก่เกษตรกรป้ายแดง เท่านั้นคงยังไม่พอเพราะความอยู่รอดของธุรกิจคงยังมีตัวแปรและเหตุปัจจัยอื่นอีกมากมายอาธิ ภาคส่วนแรงงานที่นับวันจะเป็นปัญหาหลักของภาคส่วนงานเกษตรจากเงื่อนไขทางสังคมนโยบายภาครัฐที่มีผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมแต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่าคุณภาพของแรงงานที่มีอยู่ขาดประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับรายจ่ายที่มีมากัดกินผลกำไรอย่างแทบจะไม่เหลืออะไรรวมถึงการบีบคั้นจากการตลาดที่ต้องการของดีราคาถูก แต่ขอบอกว่าทุกวันนี้ของดีราคาถูกไม่มีอยากให้พวกเราจำว่า ของดีราคายุติธรรม 

ที่จะทำให้ทุกฝ่ายอยู่รอดจากวงจรที่เอารัดเอาเปรียบซึ่งกันและกัน สิ่งที่จะไม่ลืมกล่าวถึงจากคำที่ได้กล่าวไว้ในตอนต้นคือเรื่องน้ำท่วมหรือภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้อาจหมายรวมร
เรื่องน้ำแล้ง ลมแรง ไฟป่า แมลงศัตรูและอุปสรรต่างๆที่มีอยู่หรืออาจมีมา เราคงทำการเกษตรแบบเดิมเดิมไม่ได้แล้ว วันนี้เราต้องมีการคิด วางแผน จัดการกับงานเกษตรของเราให้อยู่รอด อย่างน้อยต้องสามารถเลี้ยงตัว เลี้ยงครอบครัว เลี้ยงบริวารได้จากนั้นถ้าพอมีเหลือจะคืนสู่สังคมก็ไม่ว่ากัน
     อยากจะบอกให้รู้ว่าอุณหภูมิบนพื้นผิวโลกที่มีระดับความร้อนที่สูงขึ้นเฉลี่ย3-5ปีจะมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้น0.5-1 ํc หลายคนยังไม่ตระหนักรับรู้หากสังเกตุดีๆเราจะเริ่มเห็นถึงความถี่และความรุนแรงของภัยพิบัติจากธรรมชาติที่โหมและถาโถมสร้างความยากลำบากกับพี่น้องเกษตรกรรวมไปถึงทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ สังคมที่กว่าจะพื้นตัวคงใช้เวลา และยังเสียโอกาสอื่นๆอีกมากมายอย่างสุดที่จะพรรณา การรอความช่วยเหลือมิใช่หนทางเีดียวต่อพี่น้องเกษตรกรหัวก้าวหน้า ดำเนินสะดวกโมเดล ที่พอจะนำเสนอยกมาเป็นตัวอย่างพอสังเขปคือการป้องกันภัยพิบัติจากธรรมชาติที่พอจะแก้ไขและเตรียมตัวป้องกันมิให้เกิดผลกระทบจนสร้างความเสียหายแก่ธุรกิจ คือการสร้างคันดินป้องกันน้ำท่วมดินที่ขุดจากพื้นที่ของตนเองสามารถทำเป็นร่องระบายน้ำในพื้นที่เกษตรกรรมส่วนคันดินที่ได้นอกจากจะใช้ป้องกันน้ำท่วมแล้วยังบ่งบอกถึงอณาเขตพื้นที่จากนั้นเราสามารถปลูกต้นไม้ไว้ยึดดินลดการพังทลาย ถ้าเราใช้ไม้ผลเราก็จะได้ผลผลิตไว้จำหน่ายไว้บริโภค หากปลูกไม้ยืนต้นที่มีมูลค่ามีราคาอย่าง มะค่า ตะเคียน มะริด พะยูงหรืออื่นๆสุดแล้วแต่วัตถุประสงค์ส่วนใหญคงต้องใช้ระยะเวลานานหน่อยกว่าจะได้เนื้อไม้ แต่ทราบหรือไม่ว่าเนื้อไม้ที่ว่าราคาเท่าไร…?เมื่อเวลาผ่านไปหลายๆปีคนเคยซื้อไม้แปรรูปจะทราบดีโดยไม่ต้องอธิบายต่อ สิ่งที่ได้อีกคือแนวบังลมที่เกิดขึ้นเมื่อต้นไม้เริ่มโตถ้าไม่ตัดใช้เสียก่อนก็ไว้เป็นมรดกก้อนงามที่ลูกหลานจะนึกถึงคนปลูกทีเดียว การขุดบ่อกักเก็บน้ำในพื้นที่ก็มีความจำเป็นในยามนี้เพราะไม่รู้เมื่อไรจะแล้งขนาดพื้นที่ในอำเภอดำเนินสะดวกที่ว่ามีน้ำทั้งปีที่ผ่านมายังเคยเจอน้ำขาดช่วงไปเกือบ3เดือนอย่างนี้ถ้าไม่เตรียมตัวอาจไม่ผ่านอุปสรรคในแต่ละปีไปได้ หากเป็นช่วงฤดูฝนเมื่อเรามีบ่อน้ำแล้วเราก็สามารถพร่องน้ำเป็นแกล้มลิงคอยรับน้ำยามที่เราไม่พร้อมที่จะไประบายยามค่ำคืน ดินที่ได้จากการขุดก็สามารถถมเป็นที่ปลูกสร้างอาคารบ้านเรือนให้สูงพ้นจากน้ำท่วมหรือไว้เป็นที่จอดรถของลูกค้าที่วันนี้คนทำธุรกิจเกษตรบางคนไม่ให้ความสำคัญโดยไปใช้ถนนหลวงที่สาธารณะขึ้นของลงของบางครั้งอาจกีดขวางทางจราจรเสียอีก ริมร่องระบาบน้ำและบ่อน้ำควรปลูกพืชยึดดินลดการพังทลายจากน้ำเซาะ พืชที่ปลูกควรเป็นพืชที่ปลูกแล้วได้ประโยชน์กับเราด้วยไม่จำเป็นต้องหญ้าแฝกเท่านั้นเพราะอาจมีพืชอีกหลายชนิดที่ปลูกแล้วเกื้อประโยชน์แก่ธุรกิจเราได้และสามารถยึดดินได้ในเวลาเดียวกัน
     การวางแผนแม่บท(Master plan)นำมากล่าวไว้เพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการให้เราคิดและรู้ว่าปัจจุบันเป็นอะไรและต่อไปจะให้มีอะไรจะได้ไม่ต้องทำไปรื้อไปในระยะยาวหลายๆปีเราก็ยังสามารถขยายงานตามที่เรากำหนดแผนแม่บทในระยะเริ่มแรกของการที่เรากำหนดไว้
     ระบบขนส่งภายในฟาร์มหากเราไม่จะทำไว้ในระยะยาวเราจะนึกเสียใจหากย้อนกลับมาเริ่มต้นทำคงไม่ใช่ของง่ายจากปัจจัยที่ได้ดำเนินไปจนก่อเกิดอุปสรรค การที่เราทำงานให้มากโดยปัจจัยการผลิตจำกัดคงต้องให้ความสำคัญกับระบบขนส่งและเดินทางในฟาร์มแบบไม่ย่อหย่อนกับระบบขนส่งทั่วไปเพราะนอกจากจะทำให้เราทำงานได้มากในเวลาจำกัดแล้วเรายังสามารถสร้างปัจจัยเกื้อหนุนในด้านอื่นๆด้วยอาธิด้านการท่องเทียวเป็นต้น
     พันธุ์ดีที่ตลาดมีความต้องการมักมีการเปลียนแปลงเมื่อเวลาปลี่ยนไปโดยเฉพาะในกลุ่มพืชประดับเหมือนกับแฟร์ชั่นเสื้อผ้าที่วันนี้ใช้อย่างแต่ผ่านไปกลับใช้แตกต่างตามสมัยนิยมบางครั้งอาจกลับมาใช้เหมือนหรือคล้ายเดิมก็เป็นได้ดังนั้นต้องรู้เท่าทันตลาดและผู้บริโภคหรือรู้ก่อนยิ่งดีโดยเราสามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารจากแหล่งต่างๆที่หาได้ไม่ยากในปัจจุบัน พันธุ์ดีที่เลือกเลี้ยงหรือเลือกปลูกควรจะหาจากแหล่งที่เชื่อถือได้บางครั้งอาจต้องรอคอยหรือยากลำบากบ้างก็คิดว่าคุ้มเพราะเราจะได้ผลผลิตที่ดีตรงตามความต้องการของตลาด ไม่เสียเวลาในการเริ่มต้นใหม่จากการผิดพลาดในเรื่องพันธุ์นอกจากนั้นยังเสียโอกาสแม้กระทั่งเสียความรู้สึกและเสียใจถึงความผิดพลาด
     ระบบอำนวยความสะดวกเครื่องทุนแรงเราต้องนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ให้สอดคล้องหรืออาจประยุกต์ให้สอดคล้องกับเราบางครั้งการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้มักประสพปัญหาต่างๆมากมายโดยผู้ซื้อเทคโนโลยีนั้นแก้ปัญหาไม่ตกเพราะสภาพแวดล้อม อุณหภูมิ ภูมิประเทศ ภูมิอากาศแตกต่างกันดังนั้นเราจึงต้องศึกษาก่อนซื้อหรือลงทุน หากได้เทคโนโลยีที่เหมาะสมแล้วเราก็สมารถนำมาใช้ให้สอดคล้องกับงานทดแทนแรงงานได้ในระดับหนึ่ง
     

ความสำคัญในการทำงานที่เราต้องบริหารจัดการในธุรกิจที่ได้เริ่มต้นไว้ จากแนวทางการการวางแผนแม่บทเราจะรู้แนวทางการทำงานทั้งระบบไม่ว่าจะเป็นระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาวเราคงต้องกลับมาจัดลำัดับความสำคัญก่อนหลังจากประสพการณ์ที่ผ่านมาการจัดลำดับความสำคัญในทิศทางที่ว่า สำคัญมากทำก่อน สำคัญน้อยทำที่หลัง ไม่สำคัญไม่มีแพียงแต่เราจะกำหนดอะไรก่อนอะไรหลังเท่านั้น ทำไม่ทันก็คือไม่ทันเมื่อพอมีเวลาหรือเจียดเวลาได้ค่อยไปสะสางแล้วจะรู้ว่าไม่มีอะไรเกินความสามารถเรา ในบางกรณีอาจตั้งนำงานที่สำคัญน้อยมาคั่นบ้างเพื่อให้งานสามารถเดินไปและสอดคล้องกับอนาคตอย่างการเตรียมพ่อแม่พันธุ์เพื่อหาลูกผสมที่ดีและสามารถทำปริมาณให้สอดคล้องในอนาคตซึ่งในบางครั้งเราอาจละเลยความสำคัญมากลำดับหนึ่งในขั้นตตอนนี้ไปก็เป็นได้ แต่ในช่วงการปฏิบัติงานอาจมีการเปลี่ยนแปลงความสำำคัญของงานอยู่ตลอดเวลาดังนั้นหัวหน้างานคงต้องคิดวางแผนอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาเมื่อมีสถานการที่เปลี่ยนและปัจจัยอื่นเปลื่ยน ดังนี้จึงมิใช่เรื่องง่ายที่ เกษตรกรจะทำธุรกิจเกษตรไม่ให้เจ้ง นอกจากนั้นอาจมีสิ่งที่เกี่ยวข้องอื่นๆอีกมากเช่นการจัดการขยะ การจัดการแรงงานในบางช่วงเป็นพิเศษให้สารถเพิ่มผลผลิตให้ตรงกับช่วงความต้องการของตลาดสูง การบริหารจัดการเงินที่จะต้องซื้อปัจจัยการผลิตแม้กระทั่งจ่ายเงินเดือนหรือต้องซ่อมแซมโรงเรือนตลอดถึงปัจจัยการผลิตอื่นที่เสียหายอย่างไม่มีการวางแผนล่วงหน้า หรือแม้เรื่องการตลาดที่อาจมีการเปลียนแปลงจากปัจจัยอื่นอย่างไม่คาดฝันแม้พลังงานที่เปลี่ยนแปลง สภาพปัญหาจราจรและอื่นๆที่ไม่ไดกล่าวถึงพอเป็นสังเขปในการประกอบธุรกิจเกษตรเพราะการเรียนรู้ทั้งในแง่บวกและในแง่ลบในเวลาเดียวกันจะทำให้เราตระหนักถึงสิ่งต่างๆที่จะทำให้ธุรกิจของเราอยู่รอดปลอดภัย โดยไม่ต้องพึงพาความช่วยเหลือเมื่อภัยมาและเอาต้วรอดได้จากกระแสโลกาภิวัตน์ที่เปลี่ยนแปลงแปรปรวนตามกระแสนิยมที่ไม่มีวันหยุด อย่างน้อยที่สุดเพื่อการปรับตัวสู่กระแสการค้าเสรีอาเซียนที่วันนี้ใครก็กล่าวถึงแบบไม่ตกยุกต์ตกกระแส และหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติ่มเรื่อง ทำเกษตรอย่างไร…?ไม่เจ้ง คงต้องเข้าไปพูดคุยเพิ่มเติมกันที่ อุดมการ์เด้น ดำเนินสะดวก นะครับ

บทความโดย อุดม ฐิตวัฒนะสกุล