Opportunity to develop and expand business both for Thai and foreigners in national and regional level
Opportunities and Threats
Being not ready to open free trade (WTO) in many countries, some countries have set up a non tariff barrier and also built up partner countries such as AFTA – ASEAN Free Trade Area which is in the procedures for adjusting.
Declaring to use standards of agricultural goods imported by EU which including orchids and ornamental plants required; Thailand and many countries have to adapt the production planting and delivery process. So, many countries in many regions are aware of same direction, knowledge and ability in production are important to bring the sustainable trade to their countries.
Similar geographical environment and related traditions have an effect on industrial production, especially in agriculture. With a 580 million population as production base and a major consumer, many countries beside ASEAN are keeping their eyes on this region.
How can Horti Asia 2012 help or answer objectives concerning industrial development and expand?
The great cooperation that has lasted for a long time will be one step to a big development in the way of “ASEAN Economic Community” (AEC) that we must walk together to struggle against obstacles and eliminate problems. We will not leave the Government to be the only one defining everything but we all including the private sector, business sector and the people will be a part to drive economy throughout all the region as well. We also would like to meet with a good management in food distribution and in the resource of natural power which must not be affected by any crisis. While we must not forget “Group of creating happiness Plants” like Orchids that make everyone realize on happiness and pleasure from nature that today begin to distance away from urban life.
Cooperation and exchange of technology knowledge as well as to share resources in different formats, including formats that occurred in local trade show at the city and the country were a great chance for farmers to learn more.
2 years ago, there were representatives from N.C.C. Exhibition co., Ltd. (NEO) Thailand came to talk about scheduling Horti Asia 2012 in Thailand. When I heard about that, I was so glad and excited. This would be the great opportunity for farmers of Thailand. Even though we can say that Thailand is the central of agricultural production, but the most of the fairs frequently took place in the consumer countries. Is that because only industrial country that has potential to set up the fair due to the buying power? As everyone know, this would be hard for the farmers to afford. How can they handle the high cost living in these industrial countries with the budget from agricultural career?
What I am happy about is that the business sector who responsible for trade show such as N.C.C. Exhibition co., Ltd. (NEO) Thailand in cooperating with VNU Exhibition Europe BV from the Netherlands, Thailand Convention and Exhibition Bureau (TCEB), Ministry of agriculture and cooperatives and businesses in other sectors focus on agriculture sector. Gourmet, fruit, vegetables, orchids shows occur in the world’s main producers, which will reduce the transport and accommodation cost issues.
Center of the exhibition, Bangkok International Trade Exhibition (BITEC,) is located nearly the harbor and International airport. So, it is very convenient for transport and also the Sky train is available. The Government provides cooperation in all the steps through the process
with special care for items including. Moreover, Bangkok recently was ranked as a city where most surely travel home. It is time to open the gateway of trade with the base production and consumption of ASEAN.
As a Chairman of The Society for Ornamental Plants of Thailand one of Horti ASIA 2012 main supporters, I would like to thank you the Indonesian Government, Business sector, Farmers, Media and Press for all of your cooperation and interest in Horti Asia 2012 which is going to take place in Bangkok. Hopefully this will bring us stability of agriculture and a great relationship forever.
Mr. Udom Titwattanasakul
Chairman
The Society for Ornamental Plants of Thailand
ภาพรวมของอุตสาหกรรมไม้ดอกไม้ประดับในประเทศไทย ทั้งส่วนการผลิต การค้า และทิศทาง
ประเทศไทยมีการปลูกไม้ประดับประมาณ 15,000 ไร่ ทั่วภูมิภาคของประเทศไทย (ไม่รวมกล้วยไม้) จากข้อมูลกรมวิชาการเกษตร พบว่า ปี2551 และ2552 พบว่าประเทศไทยส่งออกไม้ประดับมีมูลค่า 432.32 ล้านบาท และ 955.95 ล้านบาท คามลำดับ
ซึ่งประเทศที่นำเข้าหลักได้แก่ สาธารณะรัฐเกาหลี เนเธอร์แลนด์ สหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ (UAE) ญี่ปุ่น อเมริกา เป็นต้น และชนิดของพืชที่ประเทศไทยส่งออกได้แก่ ลิ้นมังกร เล็บครุฑ ดราซีน่า ปทุมมา เฟื่องฟ้า ชวนชม ไม้ตัดใบ เป็นต้น
ปี 2553 ประเทศไทยส่งออกไม้มูลค่า 391.37ล้านบาท ซึ่งมูลค่าลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากภัยธรรมชาติ เกิดขึ้นทั่วโลก ราคาน้ำมันที่ขยับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สภาพเงินบาทที่แข็งค่าอีกทั้งภาวะเศรษฐกิจทางยุโรป และอเมริกาเองชะลอตัวอย่างไม่เคยมีมาก่อนนับแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ถึงกระนั้น การคาดการณ์ปี2554ภาวะตลาดโลกอาจสูงได้ถึง 3.4 ล้านล้านบาท และในจำนวนนี้มูลค่าการซื้อของระหว่างประเทศจะมีไม่ต่ำกว่า 500,000 ล้านบาท โดยมี เนเธอร์แลนด์เป็นผู้ส่งออกไม้ดอกไม้ประดับมากที่สุดในโลก คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 47.9
นอกจากนั้นพื้นที่ปลูกกล้วยไม้ตัดดอกในประเทศไทยราว 22,200 ไร่ (2552) จากเกษตรกรผู้ปลูก 2,960 ราย และ 1,200 ไร่ (2552) จากเกษตรกรผู้ปลูก 500 รายในประเภทกล้วยไม้จำหน่ายต้น ก็ยังทำให้ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกกล้วยไม้และไม้ดอกไม้ประดับอยู่ในลำดับที่10 ของประเทศผู้ส่งออกเท่านั้น
โอกาสในการพัฒนาและขยายธุรกิจทั้งสำหรับ ชาวไทยและชาวต่างชาติ ทั้งระดับประเทศและระดับภูมิภาค โอกาสและปัญหาต่างๆ
ความไม่พร้อมของการเปิดการค้าเสรี (WTO) ในหลายๆ ประเทศทำให้บางประเทศต้องตั้งข้อกีดกันสินค้านั้น ก็รวมถึง อาเซียน ASEAN FREE TRADE AREA (AFTA) ที่ต้องอยู่ในขั้นตอนการปรับตัว
จากการเข้มงวดและการประกาศใช้มาตรฐานการนำเข้าสินค้าเกษตร โดย อียู ซึ่งก็รวมถึงกล้วยไม้ ไม้ดอกไม้ประดับทำให้ประเทศไทยและหลายประเทศต้องปรับตัวถึงกระบวนการผลิตการปลูกเลี้ยง การดูแลรักษาตลอดจนการจัดส่งต้องมีมาตรฐาน ซึ่งหลายๆประเทศและหลายภูมิภาคก็ตระหนักและให้ความสำคัญในทิศทางเดี่ยวกัน ความรู้และการดำเนินการมีความสำคัญในระดับต้นๆของการผลิตที่จะนำสู่การค้าอย่างยั่งยืน
จากสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ใกล้เคียงกันส่งผลถึงภาคอุตสาหกรรมการผลิต โดยเฉพาะด้านการเกษตรโดยมีประชากร 560 ล้านคน เป็นฐานการผลิตและบริโภคที่สำคัญทำให้หลายประเทศนอกกลุ่มอาเซียนจับตามองอย่างไม่ละสายตา
งาน Horti Asia 2012 สามารถที่จะเข้ามาช่วยเหลือหรือตอบโจทย์เรื่องการขยายและการพัฒนาอุตสาหกรรมได้อย่างไร
ความร่วมมือที่มีให้กันเป็นเวลายาวนานจะพัฒนาอีกย่างก้าวหนึ่งในรูปแบบ “ประชาคมอาเซียน” ที่เราต้องเดินไปด้วยกันฝ่าฟันและขจัดปัญหาอุปสรรค ด้วยความมุ่งมั่นโดยจะไม่ปล่อยให้แต่รัฐบาลเป็นผู้กำหนดแต่เพียงฝ่ายเดี่ยว ภาคธุรกิจ เอกชน และประชาชน ต้องเป็นผู้นำช่วยกันประคับประคองการค้าการลงทุนให้เกิดการขับเคลื่อนภาคส่วนเศรษฐกิจ ทั้งภูมิภาคและที่ห่างไกลออกไปพร้อมให้เกิดความมั่นคงด้านอาหาร ด้านพลังงานที่จะต้องไม่กระทบจากการแบ่งปันทรัพยากรแบบข้ามกลุ่มผู้บริโภค ขณะเดี่ยวกันก็ต้องไม่ลืมพืช “กลุ่มสร้างความสุข” อย่างกล้วยไม้ ไม้ดอกไม้ประดับที่ทำให้ใครต่อใครทั่วโลกได้ตระหนักและรับรู้ถึงความสุขจากธรรมชาติที่นับวันจะเริ่มห่างหายและห่างไกลจากชีวิตคนเมือง
ความร่วมมือและแลกเปลี่ยนความรู้ เทคโนโลยีตลอดจนการแบ่งปันทรัพยากรในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งรูปแบบการค้าที่มีขึ้นในงานแสดงสินค้า ท้องถิ่น ณ เมืองและประเทศนั้นๆที่ผ่านมากถือเป็นโอกาสของเกษตรกรร่วมถึงองค์กรการค้าเป็นอย่างดีแล้ว
เมื่อราว 2 ปีที่ผ่านมาได้มีตัวแทนจาก บริษัท เอ็น .ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด (NEO) มาหารือพูดคุยการจัดงาน Horti Asia ในประเทศไทย ช่วงปี2012 ผมได้ฟังหลักการและเหตุผลแล้วรู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากถือได้ว่าเป็นโอกาสทองของเกษตรกรของประเทศไทยและภูมิภาคที่จะกล่าวได้ว่าเราเป็นศูนย์กลางการผลิตแต่ทุกครั้งที่มีการจัดงานกลับต้องไปจัดยังประเทศผู้บริโภคเพียงแต่เขาเป็นผู้มีศักยภาพซื้อเท่านั่นหรือ….? โอกาสที่เกษตรกรผู้ผลิตขนาดกลางขนาดย่อมจะเก็บเกี่ยวการมีส่วนร่วมที่ยากอยู่แล้วให้ยากยิ่งขึ้นเพราะเรื่องการเดินทางการขนส่งทั้งค่าครองชีพอย่างอเมริกา แคนนาดา ญี่ปุ่น ยุโรป สูงมากอีกทั้งภาคของการเกษตร คงไปเทียบกับภาคอุตสาหกรรมอื่นคงยากยิ่ง
สิ่งที่ผมฐานะเป็นเกษตรกรยินดีเป็นที่สุด คือ ภาคธุรกิจส่วนจัดแสดงสินค้าอย่างบริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด (NEO) บริษัท วีเอ็นยู เอ็กซิบิชั่นส ยุโรป บีวี (VNU)ร่วมทั้งสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(สสปน.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และองค์กรธุรกิจอื่นๆ เล็งเห็นความสำคัญของภาคการเกษตร จัดงานแสดงพืช ผัก ผลไม้ กล้วยไม้ ไม้ดอกไม้ประดับ เกิดขึ้นในแหล่งผลิตหลักของโลกซึ่งจะลดปัญหาเรื่องการขนส่ง การเดินทาง และพักอาศัย โดยสถานที่จัดเหมาะสมด้วยเหตุผลทุกประการ
ศูนย์นิทัศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพ มีสถานที่ตั้งใกล้กับท่าเรือ และท่าอากาศยานนานาชาติ การคมนาคมสะดวก รถไฟฟ้าสาธารณะ รัฐบาลให้ความร่วมมือในการจัดงานทั้งขั้นตอนการผ่านสินค้า ขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองได้รับการดูแลเป็นพิเศษรวมถึงกรุงเทพมหานครพึ่งถูกจัดอันดับเป็นเมืองที่หน้าท่องเที่ยวมากที่สุดยิ่งทำให้การจัดงานครั้งนี้เป็นจุดน่าสนใจและเป็นประตูบานใหญ่สู่การค้าที่สำคัญของโลก โดยมีฐานการผลิตและบริโภคสำคัญอย่างอาเซียนอยู่
กระผมในนามของนายกสมาคมไม้ประดับแห่งประเทศไทยและในนามขององค์กรร่วมจัดงานขอขอบคุณคณะรัฐบาล นักธุรกิจ เกษตรกร ชาวอินโดนีเซีย และสื่อมวลชนทุกแขนงถึงความร่วมมือที่จะมีแก่กันในงาน Horti Asia 2012 ที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย อันนำไปสู่ความมั่นคงทางการเกษตร การค้า และสัมพันธ์อันดีตลอดไป
Mr. Udom Titwattanasakul
Chairman